วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555

โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม2ของฉัน


                
  ประวัติโรงเรียน


โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม 2 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นโรงเรียนที่ก่อตั้งขึ้นลำดับที่ 39 ของจังหวัดเชียงรายของกรมสามัญศึกษา ประกาศตั้งเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2536 ตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1121 กิโลเมตรที่ 4 – 5 เส้นทางสายเชียงราย – ดงมะดะ มีเนื้อที่ 25 ไร่ 3 งาน 96 ตารางวา ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 393 หมู่ที่ 1 ถนนเชียงราย – ดงมะดะ ตำบลรอบเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 57000 
    



                ที่ดินแปลงนี้เดิมเป็นฌาปนสถานประจำหมู่บ้านหัวฝาย พ่อหลวงจวน ไชยชมภู ผู้ใหญ่บ้านในขณะนั้นมีแนวความคิดที่จะพัฒนาหมู่บ้าน เนื่องด้วยในขณะนั้นหมู่บ้านยังไม่มีความเจริญ เส้นทางคมนาคมยากลำบาก จึงมีความเห็นที่อยากจะให้หน่วยงานทางราชการเข้าไปตั้งสถานที่ราชการในหมู่ บ้านเพื่อที่จะทำให้หมู่บ้านเจริญขึ้น จึงขายที่ดินแปลงดังกล่าวให้โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม ในสมัยที่ท่านผู้อำนวยการ บรรจง พงศ์ศาสตร์(อดีตอธิบดีกรมสามัญศึกษา)เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน โดยมอบหมายให้ อาจารย์ณรงค์ จินดาวงศ์ หัวหน้าหมวดเกษตรกรรมศิลป์ ได้ดำเนินการประสานงานกับพ่อหลวงจวน ไชยชมภู และจัดหางบประมาณ โดยคณะครู – อาจารย์และนักเรียนได้จัดกิจกรรมต่างๆ หาเงินซื้อที่ดิน จนครบ 40,000 บาท เมื่อปี พ.ศ. 2519 เพื่อซื้อที่ดินและมีโครงการใช้ที่ดินแปลงนี้เป็นไร่ฝึกเกษตรของโรงเรียน จนกระทั่งปี พ.ศ. 2520 อาจารย์บรรจง พงศ์ศาสตร์ ได้ย้ายไปรับตำแหน่งใหม่เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนยุพราชวิทยาลัยจังหวัด เชียงใหม่และในระยะเวลาใกล้เคียงกันนั้นอาจารย์ณรงค์ จินดาวงศ์ ได้โอนย้ายไปรับราชการในสำนักงานปฏิรูปที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารโรงเรียนในยุคต่อมาเห็นว่าการเดินทางไป–กลับของนักเรียนเพื่อ ปฏิบัติงานที่ไร่ฝึกเกษตรยากลำบาก ดังนั้นจึงได้ระงับโครงการไร่ฝึกเกษตรดังกล่าว ที่ดินแปลงนี้จึงถูกทิ้งรกร้างอีกระยะหนึ่ง
                   ต่อมาในปี พ.ศ. 2528 ผู้อำนวยการประสิทธิ์ แสนไชย ได้พัฒนาไร่ฝึกเกษตรอีกครั้ง โดยปลี่ยนแปลงเป็นสวนป่าโรงเรียนจึงได้รับมอบหมายให้หมวดวิชาเกษตรกรรม ประสานงานตามโครงการ และให้ครู – อาจารย์และนักเรียนร่วมกันปลูกไม้ยืนต้น ต่อมาในสมัยที่ผู้อำนวยการบุญส่ง ไชยลาม (2532 – 2536) เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน มีนโยบายที่จะใช้ที่ดินแปลงนี้เป็นสถานที่ฝึกอบรมของโรงเรียนแต่โครงการดัง กล่าวไม่บรรลุผล อาจารย์เฉลิมชัย รัตนประยูร ผู้อำนวยการสามัญศึกษาจังหวัดเชียงราย ได้ตระหนักถึงการขยายตัวทางการศึกษาของจังหวัดเชียงรายในอนาคต ตลอดจนความต้องการที่จะเข้าศึกษาต่อโรงเรียนสามัคคีวิทยาคมในขณะนั้นมีจำนวน มากเกินกว่าที่ทางโรงเรียนจะรับได้ ประกอบกับที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินจัดซื้อจากวิสัยทัศน์ของท่านอธิบดี บรรจง พงศ์ศาสตร์ และยังไม่สามารถใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ดังที่คาดหวัง จึงได้ปรึกษากับผู้ใหญ่ในกรมสามัญศึกษาจึงได้รับอนุมัติให้ดำเนินการจัดตั้ง โรงเรียนโดยให้ใช้ชื่อว่า “โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม 2” เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2536
               ในปีการศึกษา 2537 โรงเรียนเริ่มเปิดรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีนักเรียนจำนวน 103 คน โดยมีนายสงัด มิตกิตติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสามัญศึกษาจังหวัดเชียงราย ทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่งครูใหญ่ เป็นคนแรก ดำเนินการรับสมัครนักเรียน

                วันที่ 13 พฤษภาคม 2537 – 30 กันยายน 2544 กรมสามัญศึกษา ได้แต่งตั้ง นางพาณี จินดา-วงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม 2

                 วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2544 – 8 พฤษภาคม พ.ศ.2546 นายทวีศักดิ์ พิพัฒน์ขจรศักดิ์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม 2

                 วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2546 – 27 ธันวาคม พ.ศ. 2549 นายอุทิศ สิทธิยศสมบัติ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม 2

                 วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2549 – พ.ศ. 2552 นายพานทอง วังเค็ม ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม 2






โรงเรียนส่งเสริมคุณธรรม

อัตลักษณ์ของผู้เรียน

นักเรียนเป็นผู้ที่มีจิตอาสา


ติธรรมประจำโรงเรียน

พลํ สํง ฆฺส ส สามฺค คี     “สามัคคี คือ พลัง
ปรัชญาของโรงเรียน
เน้นคุณธรรม นำปัญญา พัฒนาสังคม” 


เครื่องหมายประจำโรงเรียน


              

   

               -  ห่วงกลม 6 ห่วง ประกอบด้วยสี 3 สี หมายถึง

               - สีประจำโรงเรียน คือ น้ำเงิน ขาว แสด เกาะเกลียวกันเป็นลูกโซ่อย่างเหนียวแน่น มั่นคง  เปรียบเสมือนความสามัคคีกลมเกลียวแน่นแฟ้น

               - รอบ ๆ ห่วง 6 ห่วง จะเปล่งประกายออกเป็นรัศมีทองแสด รวมทั้งหมด 39 แฉกหมายถึง   เป็นโรงเรียนมัธยมโรงที่ 39 ของจังหวัดเชียงราย

               - ตัวอักษรภาษาบาลี หมายถึง คติธรรมประจำโรงเรียน

             - ใต้ตัวอักษรบาลี  คือ  ปีพุทธศักราชที่ก่อตั้งโรงเรียน
 สีประจำโรงเรียน
          น้ำเงิน : ขาว : แสด

ต้นไม้ประจำโรงเรียน
           ต้นอินทนิล
 
จากเว็บ











                                



   

             














การทำก๋วยเตี๋ยวราดหน้า





 ราดหน้าเป็น ก๋วยเตี๋ยวของคนจีน แรกๆเป็นอาหารขายเฉพาะในภัตตาคาร แต่ต่อมาได้รับความนิยมมาก จึงมีคนจีนโดยเฉพาะคนจีนแต้จิ๋วทำขายทั่วไป น้ำเหนียวข้นที่ใช้ราดเส้นเป็นภาษาจีนเรียกว่า "เกิง" ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าสมัยก่อนจะใช้ผักกวางตุ้ง น้ำราดมีเพียงเล็กน้อย เพราะจะต้องห่อด้วยใบตองที่รองด้วยกระดาษ น้ำน้อยขนาดที่ห่อแล้วไม่ไหลออกจากใบตอง ส่วนเส้นที่ใช้ก็คือก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ทำเป็นแผ่นกลมใหญ่ นึ่งร้อนๆแล้วนำมาตัดเอง

ความอร่อยของก๋วยเตี๋ยวราดหน้าอยู่ที่เส้น ก๋วยเตี๋ยว จะต้องมีกลิ่นหอมจากไฟกระทะ ลักษณะเส้นต้องมีรอยไหม้เกรียมและพอง การผัดเส้นให้ได้ลักษณะดังกล่าวนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้กระทะเหล็ก เนื้อหนา เตาแก๊ซหัวฟู่ และคนผัดที่ชำนาญ เวลาผัดต้องตั้งกระทะเหล็กบนไฟแรงก่อน จึงใส่น้ำมันลงไป กลอกให้ทั่วกระทะ แล้วเทน้ำมันกลับคืนให้เหลือติดก้นกระทะเล็กน้อย เมื่อกระทะน้ำมันร้อนจัดขยี้ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ใส่ลงไป เร่งไฟให้แรง ผัดเร็วๆแต่นานๆให้เส้นเกรียมและพองมีรอยไหม้ ใส่ซีอิ๊วดำหรือไม่ใส่ก็ได้ ผัดให้ทั่วอีกทีก็ใช้ได้แล้ว

ส่วนน้ำราดหน้า เครื่องปรุงที่เป็นตัวหลักคือ เต้าเจี้ยวดำ เต้าเจี้ยวที่หมักดองจนได้รสเค็มกลมกล่อม สร้างรสชาติเฉพาะให้กับน้ำราดหน้า ปัจจุบันมีการใช้เต้าซี่แทนเต้าเจี้ยวบ้างเหมือนกัน แต่จะใช้กับเนื้อปลาเท่านั้น เช่น รดาหน้าปลาเต้าซี่ ซึ่งเป็นอาหารเหลาที่ขายในภัตตาคารจีนหรือร้านอาหารจีนมีระดับ

เดิมที ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าใช้ผักกวางตุ้ง จากนั้นเปลี่ยนมาใช้ผักคะน้า เพราะผักกวางตุ้งเหี่ยวง่าย ลำต้นไม่กรุบกรอบเท่าคะน้า จากก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ขยายเป็นเส้นหมี่ บะหมี่กรอบ เส้นหมี่กรอบ เกี๊ยวกรอบ และอื่นๆ

การทำก๋วยเตี๋ยวราดหน้า




        http://www.youtube.com/watch?v=dPs_1JFA-UY

การตูนหน้าดู

ธรรมชาติกำลังสื่อสารกับเรา ผ่านเสียงสายลม ต้นไม้ น้ำแข็งที่กำลังละลาย รวมถึงภัยพิบัติต่าง ๆ แต่เราไม่เคยหยุด และฟังเสียงเหล่านั้น...

เรื่องราวการผจญภัยของ จ่อเป และ หน่อวา สองพี่น้องชาวกะเหรี่ยง ผู้เดินทางจากหมู่บ้านกลางป่าลึกทางภาคเหนือของไทย สู่มหานครอันแสนวุ่นวาย เพื่อช่วยโลกจากภัยพิบัติที่ไม่มีใครคาดถึง
จ่อเป เป็นเด็กน้อยที่มีความสามารถพิเศษในการพูดคุยกับธรรมชาติ หน่อวา เป็นเด็กสาวผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพร และศิลปะการต่อสู้แบบกะเหรี่ยง ทั้งสองได้พบกับ แซม ลูกชายประธานาธิบดีแห่ง Capital State ซึ่งมาเข้าค่ายลูกเสือโลกที่เมืองไทย และเกิดพลัดหลงเข้าไปในป่าหมอก เมื่อ จ่อเป และ หน่อวา ได้ช่วยเขาไว้ มิตรภาพของเด็กทั้งสามก็เริ่มต้นขึ้น
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ภาวะโลกร้อนที่ขึ้นสูงเกินพิกัดได้ก่อให้เกิด ปีศาจความร้อน BUCT มันขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และสร้างความเสียหายมหาศาล ด้วยการดูดกินพลังงานทั่วโลก เพื่อแก้ไขวิกฤตครั้งนี้ บรรดาผู้นำโลกตัดสินใจใช้อาวุธที่รู้จักกันในนาม Cool Bomb เข้าจัดการกับปีศาจความร้อน
มีแต่เพียงจ่อเป หน่อวา และแซมเท่านั้นที่รู้ว่า นั่นไม่ใช่ทางออกที่แท้จริง Cool Bomb จะสร้างผลร้ายตามมา จนทำให้มนุษยชาติต้องสูญสิ้นไปตลอดกาล! ทางเดียวที่จะช่วยให้ทุกคนรอดพ้นจากมหันตภัย คือการหยุดใช้พลังงานทุกอย่าง!
มีเวลาเหลือน้อยเต็มทีที่จะหยุด Cool Bomb และปีศาจความร้อน ถ้าพวกเขาทำไม่สำเร็จ นั่นหมายถึงจุดจบของทุกชีวิต

การเล่นเกมส์ให้ถูกวิธีและการแนะนำเกมส์ใหม่


 การเล่นเกมส์ให้ถูกวิธี


 1.แบ่งเวลาในการเล่นเกมส์ว่า เวลาไหนควรเล่นเวลาไหนไม่ควรเล่น
 2.ไม่เล่นจนติดคอมแงม
 3.ควรเลือกเกมส์ที่เล่นให้เหมาะสมกับการวัยให้เหมาะสม




Soul Captor(UK) เกมส์แนวน่ารัก ใสๆ เอาใจขาแบ๊ว OBT แล้วนะจ้า

หลังจากที่ Soul Captor เกมส์ออนไลน์สไตล์ MMORPG ได้ปล่อยให้สาวกขาแบ๊วรอมากว่า 2 ปี ในที่สุดก็ได้เวลาเปิด OBT เซิร์ฟเวอร์ UK ให้เพื่อนๆ ได้เข้าไปสัมผัสความน่ารักกันเต็มรูปแบบแล้ว ใครที่ชอบเกมส์แนว Cute ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งครับ
ในเกมส์ออนไลน์ Soul Captor มีระบบที่น่าสนใจมากมายหลายระบบทีเดียวครับ มาเริ่มกันอย่างระบบง่ายๆ กันก่อนกับ สาวน้อย Anima สาวน้อยสุดน่ารักที่จะมาเป็นเพื่อนร่วมเดินทางไปกับเรา ความน่ารักสดใสของพวกเธอจะช่วยเพิ่มเติมสีสันให้กับการผจญภัยของเราได้มากที เดียว Anima ใน Soul Captor มีลูกเล่นมากมาย เราสามารถหาชุดน่ารักๆ หรือสัตว์ขี่มาตกแต่ง Anima ให้น่ารักขึ้นเป็นทวีคูณได้
นอกจากที่ Anima จะช่วยเราต่อสู้ได้แล้ว พวกเธอยังมีความสามารถพิเศษในการเก็บวิญญาณ เมื่อเราสามารถจัดการมอนสเตอร์ต่างๆ ได้ เธอจะดูดวิญญาณเข้าสู่ Soulpedia ซึ่งจะทำให้เราได้รับบัพต่างๆ หรือบางตัวอาจเรียกออกมาใช้เป็นสัตว์ขี่ได้ด้วย
มาว่ากันที่อาชีพภายในเกมส์นี้กันบ้าง ภายในเกมส์จะมีอาชีพทั้งหมด 6 อาชีพ คือ Warrior, Mystic Fighters, Celestial Master, Priest, Shaman และ Onmyoji ถึงชื่อ Class จะดูแปลกใหม่ แต่ในความเป็นจริงแล้วก็คล้ายๆ กับ Class ของเกมส์อื่นๆ นั่นแหละลองเข้าไปสัมผัสดูก็จะทราบเองครับ
สัตว์ขี่ภายในเกมส์ ก็ถือเป็นส่วนที่ช่วยเพิ่มความน่ารักให้เกมส์อย่างมากเลยทีเดียว ด้วยสัตว์ขี่ที่มีอยู่อย่างมากมายทั้งแบบเท่ๆ น่ารักๆ หรือแบบแปลกๆ มีให้เลือกกันจนตาลายเลยทีเดียว นอกจากต้องตามล่าหาสัตว์ขี่มาให้ตัวเราแล้ว เรายังต้องหาสัตว์ขี่ให้สาวน้อย Anima ของเราด้วย งานนี้แค่ล่าสัตว์ขี่ให้ครบก็กระอักเลือดกันแล้วหล่ะ ^ ^
จากที่ได้ลองทดสอบเกมส์ออนไลน์ Soul Captor ผมว่าเกมส์นี้ใช้ได้ทีเดียวครับ เล่นได้เพลินๆ ใครชอบแนวน่ารักๆ เพลินๆ ไปกับ Anima และสัตว์ขี่ ก็สามารถเข้าไปลองเล่นกันได้ครับ รับรองถูกใจแน่นอน